การบริหารโดยการเรียนจากชีวิตสัตว์/Management by Animals (MBA) # 7

 

Butterfly (บัตเทอร์ฟลาย = ผีเสื้อ)


ผีเสื้อเป็นแมลงชนิดหนึ่งที่กินน้ำหวานดอกไม้ มีปีกเป็นแผ่นบาง ๆ สองคู่ ลำตัว ปีกและขาปกคลุมด้วยเกล็ดขนาดเล็กมากคล้ายฝุ่น เมื่อมองด้วยตาเปล่า เกล็ดเหล่านี้ทำให้เกิดสีต่าง ๆ กัน ปากเป็นงวงยาวม้วนเข้าอยู่ใต้หัวได้ มีทั้งชนิดหากินในเวลากลางวัน เรียก ผีเสื้อกลางวัน ภาษาไทยเหนือเรียก กะเบ้อ กำเบ้อ ก่ำเบ้อ หรือ อีเบ้อ และชนิดหากินในเวลากลางคืน เรียก ผีเสื้อกลางคืน ภาษาไทยเหนือเรียก แมงกาย

สามารถพบผีเสื้อได้ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก แต่มักจะพบผีเสื้อในสภาพอากาศที่อบอุ่นมากกว่าเขตหนาว 

ลักษณะที่มีชื่อเสียงที่สุดของผีเสื้อคือกระบวนการลอกคราบ (การเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะไปเป็นขั้น ๆ จากตัวอ่อนจนถึงตัวโตเต็มวัย) ในช่วงวงจรชีวิตของผีเสื้อ ซึ่งผีเสื้อจะเริ่มต้นชีวิตด้วยการเป็นหนอนอาศัยในรังไหมที่เป็นด้ายเนียนนุ่ม และเมื่อถึงเวลาหนอนผีเสื้อโผล่ออกมาจากเวลาอยู่ในฝักพร้อมปีกหลากสี 

ผีเสื้อในป่าฝนเขตร้อนของซีกโลกใต้นี้มีปีกสีสันที่สดใสที่สุดในโลกธรรมชาติ

คาดการณ์ว่ามีผีเสื้ออยู่ระหว่าง 15,000 ถึง 20,000 ชนิด เนื่องจากมีการค้นพบมากขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในพื้นที่ป่าทึบที่มีการสัมผัสกับมนุษย์เพียงเล็กน้อย ผีเสื้อสายพันธุ์ต่าง ๆ มีขนาดและสีแตกต่างกันไปรวมทั้งความแตกต่างของลวดลายที่แสดงบนปีกของผีเสื้อ 

ผีเสื้อเป็นสัตว์ที่กินพืชที่มีน้ำตาลสูง ผีเสื้อบินไปมาระหว่างดอกไม้ ดื่มน้ำหวานผ่านลิ้นที่ยาวซึ่งทำหน้าที่เหมือนหลอดดูด ในขณะที่ทำเช่นนี้ ผีเสื้อจะถ่ายโอนละอองเรณูระหว่างพืชซึ่งหมายความว่าผีเสื้อมีบทบาทสำคัญในการผสมเกสรของพืชทั่วโลก 

เนื่องจากมีขนาดเล็กและมีปีกที่มีสีสัน ผีเสื้อจึงตกเป็นเหยื่อของสัตว์หลายชนิดทั่วโลก นักล่าหลักของผีเสื้อ ได้แก่ สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก เช่น กบและสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก เช่น กิ้งก่าและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น ค้างคาว 

ผีเสื้อสืบพันธุ์โดยผีเสื้อตัวผู้สอดอสุจิของมันเข้าไปในกระเป๋าของผีเสื้อตัวเมีย เมื่อผีเสื้อตัวเมียพร้อมที่จะวางไข่ ก็จะทำกระบวนการปฏิสนธิด้วยตัวเอง โดยตัวเมียจะปล่อยไข่มันจะผ่านถุงที่มีสเปิร์มของผีเสื้อตัวผู้และเกิดการปฏิสนธิ 

ผีเสื้อตัวเมียวางไข่ครั้งละประมาณ 100 ฟองโดยผีเสื้อบางชนิดวางไข่เป็นกระจุก (ทั้งหมดในคราวเดียว) และผีเสื้อชนิดอื่น ๆ จะวางไข่ทีละฟองบนพืชหลายชนิด ในไม่ช้าไข่ก็ฟักเป็นตัวอ่อนซึ่งจะพัฒนาเป็นหนอนผีเสื้อแล้วกลายเป็นผีเสื้อ 

ผีเสื้อเป็นความอัศจรรย์ ความน่าทึ่งและเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่มีความอ่อนโยนและสีสันสดใส ยกตัวอย่าง ผีเสื้อตัวน้อย ๆ สีเหลือง 2 ตัวที่บินคู่กันด้วยปีกที่อ่อนแอและบอบบางแต่ทำความเร็วไม่ต่ำกว่า 40 กม./ชม. พร้อมกับลีลาที่พลิ้วไหว ไม่มีเครื่องจักรกลใด ๆ ของมนุษย์ที่จะเลียนแบบได้เลย

บทเรียนที่เราได้จากผีเสื้อ 

1. เล็ก ๆ แต่สวยงาม (Small but beautiful) อย่าดูถูกผีเสื้อที่เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ผีเสื้อนี่แหละคือครู!  ผีเสื้อสร้างแรงบันดาลใจให่มนุษย์วาดภาพ แต่งเพลง เขียนบทประพันธ์และกาพย์กลอนนับไม่ถ้วน 

2. ผีเสื้อสอนเราให้เปิดใจรับการเปลี่ยนแปลง เต็มใจที่จะกลายร่าง หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงจะไม่มีอะไรสวยงามเกิดขึ้น คุณต้องยอมรับว่าคุณคือใครจริง ๆ ก่อนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงตัวเอง 

3. เบาและเป็นอิสระ ผีเสื้อคือสัญลักษณ์ของความงดงามและความสุข ขอให้คุณสนุก ลอยจากประตูที่เปิดไปแต่ละบาน มองหาสีสัน อารมณ์ขันและความสุขในชีวิตประจำวันเหมือนผีเสื้อ

4. ทำตัวกลมกลืนกับธรรมชาติ ไปทุกที่ที่ “ปีก” ของคุณจะพาคุณไป จงบินไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ มีความกล้าที่จะคว้าโอกาสใหม่ ๆ 

5. ฉวยประโยชน์จากสภาพแวดล้อม ให้เรามองไปรอบ ๆ เพลิดเพลินไปกับดอกไม้ แสงแดด และสายลม ช่วงเวลาปัจจุบันเป็นของขวัญสำหรับเราที่จะเพลิดเพลินได้ในราคาถูกที่สุด

 เชื่อผีเสื้อสิ!

 

Comments

Popular posts from this blog

การบริหารโดยการเรียนจากชีวิตสัตว์/Management by Animals (MBA) # 15

การบริหารโดยการเรียนจากชีวิตสัตว์/Management by Animals (MBA) # 11

การบริหารโดยการเรียนจากชีวิตสัตว์/Management by Animals (MBA) # 13