การบริหารโดยการเรียนจากชีวิตสัตว์/Management by Animals (MBA) # 15


Crab (แครป = ปู)

เอ่ยถึงปู เราต้องนึกถึงปูแสมดองที่ใส่ส้มตำรสแซป ปูม้านึ่งที่มีรสชาติแสนอร่อยหรือปูทะเลผัดผงกระหรี่ราคาแพง 

เท่าที่มีการค้นพบ มีปูมากกว่า 6,700 ชนิด บางชนิดอาศัยอยู่เฉพาะในมหาสมุทร บางชนิดอาศัยอยู่ตามชายฝั่ง บางชนิดอาศัยอยู่ในน้ำจืด บางชนิดอาศัยบนต้นมะพร้าว เป็นต้น 

ปูเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมมากเพราะเป็นสัตว์ที่ทำหน้าที่สุขาภิบาล รักษาความสะอาด  และยังเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญสำหรับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ รวมทั้งมนุษย์ 

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับปู 

ปูช่วยให้ปะการังอยู่รอดโดยการทำความสะอาดเศษซากที่อาจฆ่าแนวปะการัง 

ปูมีมาตั้งแต่ยุคจูราสสิก 

ปูส่วนใหญ่เดินและว่ายน้ำไปด้านข้าง 

ปูตัวผู้บางชนิดต่อสู้กันเพื่อแย่งคู่และที่หลบซ่อน

ปูมี 10 ขา แต่สองขาแรกเป็นเล็บ ไม่ได้ใช้ในการเดิน 

ปูมีหลายขนาด ปูที่เล็กที่สุดที่รู้จักคือปูถั่ว (Pinnotheres pisum) ซึ่งมีขนาดเพียง 0.68 ซม. หรือขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของยาเม็ดแอสไพริน เมืองไทยก็มีพวกปูลม  ปูที่ใหญ่ที่สุดคือปูแมงมุมญี่ปุ่นซึ่งเมื่อกางขาจะมีความกว้างถึง 13 ฟุต (4 เมตร) ปูมะพร้าวใช้ขาคู่หน้าสุดของปูมเป็นก้ามขนาดใหญ่ใช้สำหรับเจาะลูกมะพร้าวและสามารถยกน้ำหนักได้ถึง 29 กิโลกรัม ปูที่หนักที่สุดที่เคยพบคือแมงดาทะเลซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 28 ปอนด์หรือเท่ากับสุนัขคอร์กี้หรือพุดเดิ้ลตัวจิ๋ว หมายเหตุ: แมงดาทะเลจริง ๆ แล้วไม่ใช่ปูเลย และก็ไม่ใช่กุ้ง  แต่ผู้คนก็ยังคงคิดว่าเป็นพวกเดียวกับปูเพราะพวกมันอาศัยอยู่ในเกลือและน้ำกร่อยและทำตัวเหมือนปูมาก แต่มันไม่ใช่ ญาติของแมงดาทะเลคือแมงมุม 

ปูแต่ละชนิดมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ปูบางตัวอาศัยอยู่ตามลำพังและจะเจอปูตัวอื่นเมื่อถึงเวลาผสมพันธุ์ ปูชนิดอื่น ๆ อาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ กลุ่มเหล่านี้อาจมีปูเป็นร้อยหรือหลายพันตัวก็ได้ การอยู่เป็นกลุ่มทำให้ปูหาคู่ได้ง่ายขึ้นและยังทำให้ปูตกเป็นเหยื่อได้ยากขึ้น 

ปูมักจะขี้อายและมักจะหนีจากอันตราย แม้ว่าปูจะมีก้ามที่สามารถใช้ทำร้ายนักล่าได้ แต่การบาดเจ็บมักไม่ร้ายแรงและปูส่วนใหญ่จะหนีมากกว่าต่อสู้ ปูมะพร้าวมีก้ามที่แข็งแรงพอที่จะหักนิ้วคนได้และยังสามารถทำร้ายสัตว์ขนาดเล็กอื่น ๆ เช่น หมาและแมวได้ 

แม้ว่าปูจะมีกระดองที่แข็ง แต่ปูก็ยังคงเป็นอาหารโปรดของสัตว์หลายชนิด ลูกปูแรกไม่มีกระดองแข็งจะเป็นเหมือนแพลงก์ตอนที่ลอยน้ำได้อย่างอิสระ และเป็นอาหารของปลา ปะการัง ดอกไม้ทะเลและสัตว์เล็กเกือบทุกชนิด เมื่อปูโตขึ้นก็ยังเสี่ยงต่อการถูกล่าจากปลา ตัวนาก ปูขนาดใหญ่ ปลาหมึกและมนุษย์ 

ปูเป็นแหล่งอาหารที่ดี เพราะมีโปรตีนมากและมีไขมันต่ำ รวมทั้งสารอาหาร เช่น วิตามิน B-12 และซีลีเนียม 

ความที่ปูม้าและปูทะเลมีรสชาติอร่อย ถ้าไม่มีการควบคุม ปูทั้ง 2 ชนิดนี้อาจสูญพันธุ์ได้ การควบคุมปริมาณปูที่จับได้ในแต่ละฤดูกาลช่วยเพิ่มจำนวนปูและทำให้แน่ใจว่าปูจะมีพอเพียงต่อการบริโภค นอกจากนั้น วิธีการอนุรักษ์ปูม้าและปูทะเลโดยนำปูไข่นอกกระดองที่จับได้มาใส่ในถัง (ปูตัวหนึ่งสามารถวางไข่ได้เป็นล้าน ๆ ฟอง) เมื่อนำมาเพาะขยายพันธุ์จึงเป็นการปล่อยปูอีกล้าน ๆ ตัวกลับสู่ธรรมชาติ 

บทเรียนที่ได้จากปู 

1. เมื่อใส่ปูจำนวนมากในถัง แต่ละตัวจะพยายามปีนออก ถ้ามีปูเพียงตัวเดียว มันจะปีนออกจากถังได้ง่าย ๆ แต่พอมีปูจำนวนมากในถัง มันจะดึงกันและกันลง ดังนั้น ถ้าเราไม่ระวังผู้คนรอบ ๆ ตัวอาจฉุดเราลงโดยไม่รู้ตัว ไม่ได้ตั้งใจก็ได้ ให้ระวังเสมอ 

2. การที่ปูรวมกลุ่มใหญ่เพื่อรอดจากการถูกล่า ให้บทเรียนกับเราในการทำงานเป็นทีม งานบางอย่างอาจเหมาะที่จะทำคนเดียวแต่ท้ายที่สุดงานที่ทำด้วยคน ๆ เดียวก็ยังจะต้องนำไปผนวกกับงานชิ้นอื่น ๆ เพื่อใช้งานกับคนหมู่มากอยู่ดี เพราะฉะนั้น อย่าละเลยการทำงานร่วมกันกับหมู่คณะ


Comments

Popular posts from this blog

การบริหารโดยการเรียนจากชีวิตสัตว์/Management by Animals (MBA) # 11

การบริหารโดยการเรียนจากชีวิตสัตว์/Management by Animals (MBA) # 13