การบริหารโดยการเรียนจากชีวิตสัตว์/Management by Animals (MBA) # 4

 

Bear (แบร์ = หมี)

หมีเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จัดเป็นสัตว์กินเนื้อเหมือนสุนัข ในปัจจุบันแม้ว่าหมีจะหลงเหลืออยู่เพียง 8 สายพันธุ์ แต่ก็จะพบหมีได้แพร่หลายทั่วซีกโลกเหนือและบางส่วนในซีกโลกใต้  โดยเฉพาะทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป และเอเชีย

ลักษณะทั่วไปของหมีคือ มีลำตัวขนาดใหญ่ มีขาที่แข็งแรง จมูกยาว หูกลมเล็ก ขนดก อุ้งเท้ามีกรงเล็บที่ไม่ยืดหด และมีหางสั้น 

หมีขั้วโลกถือเป็นสายพันธุ์ที่ยังหลงเหลืออยู่ที่ใหญ่ที่สุดโดยตัวผู้ตัวเต็มวัยมีน้ำหนัก 350–700 กก. และมีความยาวรวม 2.4–3 ม. ส่วนสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดคือหมีอาทิตย์ซึ่งมีน้ำหนัก 25–65 กก. และมีความยาว 100–140 ซม. 

ในขณะที่หมีขั้วโลกส่วนใหญ่กินเนื้อเป็นอาหารและแพนด้ายักษ์กินไม้ไผ่ แต่อีก 6 ชนิดที่เป็นพวกที่กินไม่เลือก 

โดยทั่วไปหมีจะเป็นสัตว์ที่สันโดษ พวกมันอาจจะออกหากินเวลากลางคืนและตามกลิ่นได้ดีเยี่ยม แม้จะมีการเคลื่อนไหวที่แบกน้ำหนักเยอะและมีการเดินที่ดูเหมือนอุ้ยอ้าย แต่หมีก็เป็นนักวิ่ง นักปีนเขาและนักว่ายน้ำที่เชี่ยวชาญ หมีชอบอยู่ในถ้ำและโพรงไม้ สปีชีส์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในโพรงในช่วงฤดูหนาว จำศีลเป็นเวลานานร่วม 100 วัน

มนุษย์ล่าหมีมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์เพื่อกินเนื้อและเอาขน คนเรายังฝึกหมีเพื่อให้ความบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เต้นรำและแสดงในละครสัตว์ เป็นต้น ด้วยลักษณะทางกายภาพที่ทรงพลังพวกหมีจึงมีบทบาทโดดเด่นในศิลปะตำนานเทพเจ้าและแง่มุมทางวัฒนธรรมอื่น ๆ ของสังคมมนุษย์

ปัจจุบันหมีถูกกดดันจากการรุกล้ำถิ่นที่อยู่และการค้าชิ้นส่วนหมีอย่างผิดกฎหมาย รวมถึงตลาดดีหมีและอุ้งตีนหมีในเอเชีย 

องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ IUCN เปิดเผยว่ามีหมี 6 สายพันธุ์ที่เสี่ยงหรือใกล้สูญพันธุ์หรือน่าเป็นห่วง เช่น หมีสีน้ำตาลที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในบางประเทศ แม้จะมีการห้ามการลักลอบล่าสัตว์และการค้าสัตว์ป่าระหว่างประเทศ แต่การล่าหมีก็ยังคงทำกันต่อไป 

พฤติกรรมและนิเวศวิทยา

โดยทั่วไปหมีสีน้ำตาลและสีดำอเมริกันจะออกหากินทุกวันซึ่งหมายความว่าพวกมันจะออกหากินส่วนใหญ่ในตอนกลางวัน แม้ว่าพวกมันจะหาอาหารได้มากในตอนกลางคืนก็ตาม ส่วนสายพันธุ์อื่น ๆ อาจออกหากินเวลากลางคืนออกหากินในเวลากลางคืนเพื่อหลีกเลี่ยงนักล่าในเวลากลางคืน

หมีเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างสันโดษมาก ๆ และถือว่าเป็นเป็นสัตว์ที่ไม่เข้าสังคมมากที่สุดในบรรดาสัตว์กินเนื้อ จะพบว่าหมีจะรวมกันเป็นกลุ่มก็คือในคราวที่มีอาหารที่อุดมสมบูรณ์ตามฤดูกาล เช่น ฤดูจับปลาแซลมอน  การต่อสู้ระหว่างเพศผู้อาจเกิดขึ้นได้และผู้สูงอายุอาจมีแผลเป็นมากมายซึ่งชี้ให้เห็นว่าการรักษาอำนาจเหนือกว่าอาจเป็นเรื่องที่รุนแรง ด้วยความรู้สึกได้ถึงกลิ่นที่รุนแรงหมีสามารถค้นหาซากได้แม้จะห่างเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร พวกมันใช้การดมกลิ่นเพื่อค้นหาอาหาร เพื่อหาคู่ หลีกเลี่ยงคู่แข่งและจดจำลูกของมัน

บทเรียนที่ได้จากหมี 

1. หมีเป็นแม่ที่ดีและเป็นลูกที่ดี ลูกหมีจะเรียนจากแม่หมีทุก ๆ สะเต็ป ส่วนแม่หมีก็จะคอยสอนคอยดูแลลูก ๆ ทุกฝีเก้า ถ้าลูกดื้อเมื่อไร แม่หมียังจะมี “บทเบิร์ด” บางครั้ง น่าที่แม่คนจะลองดูสารคดีเกี่ยวกับแม่หมีจะได้ข้อคิดดี ๆ ในการสอนลูก

 2. เรียนรู้ที่จะ “จำศีล” ชีวิตไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงานอย่างเดียว อย่าลืมว่าหมีขาวและหมีในโซนเหนือจำศีลร่วม ๆ 3 เดือน เราเองก็ต้องจัดหาเวลาหยุดพัก เพื่อให้สมอง ร่างกายและจิตใจได้มีโอกาสพักฟื้นบ้าง 

3. เรียนที่จะหาแหล่งอาหาร หมีเป็นนักกินที่ดุเดือดและมีรสนิยมในการกิน เช่น น้ำผึ้ง ผลไม้หรือปลาแซลมอน แต่ที่จะได้กินอาหารดี ๆ ก็ต้องหมายความว่าหมีหาอาหารได้เก่งมาก เราเองก็น่าที่จะค้นหาแหล่งงานหรือแหล่งเงินเพื่อเข้าถึงงานที่เหมาะสมและบรรยากาศการทำงานที่ใช่ เพื่อให้คุ้มค่าเวลาแลัการลงทุน

อย่าลืม! ถึงหมีจะดูอ้วนอุ้ยอ้าย แต่ตุ๊กตาหมีได้รับการโหวดว่าเป็นตุ๊กตาที่น่ารักน่ากอดลำดับแรก ๆ มานานแล้ว!

 

 

 

Comments

Popular posts from this blog

การบริหารโดยการเรียนจากชีวิตสัตว์/Management by Animals (MBA) # 15

การบริหารโดยการเรียนจากชีวิตสัตว์/Management by Animals (MBA) # 11

การบริหารโดยการเรียนจากชีวิตสัตว์/Management by Animals (MBA) # 13