การบริหารโดยการเรียนจากชีวิตสัตว์/Management by Animals (MBA) # 2

                                   

บทความ MBA (Management by Animals) จะลงตามลำดับตัวอักษร A ไปจนถึง Z ซึ่งจะให้ข้อคิดจากชีวิตสัตว์เพื่อปรับประยุกต์กับชีวิตและการงาน ปัญหาหลายอย่างจะแก้ได้ง่ายกว่าที่คิด ถ้าเราคุ้นเคยกับธรรมชาติ

Ass (แอสสฺ = ลา)

เนื่องจาก MBA ของเราเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์ คำ Ass ในที่นี้จึงไม่หมายความว่า "ก้น" หรืออวัยวะใด ๆ แต่ใช้หมายถึง "ลา" จริง ๆ 

ลาจัดอยู่ในตระกูลเดียวกับม้า มีกีบแข็ง แต่มีขนาดตัวเล็กกว่า แผงคอและขนหางของลาสั้นกว่าม้า ที่ยาวกว่าม้าก็คือ "หู" ของมันนั่นเอง ความที่มีกีบแข็งและขนาดเล็กกว่าม้าทำให้ลามีความคล่องตัวในการปีนป่ายภูเขาพร้อม ๆ กับที่บรรทุกของที่มีน้ำหนักมาก ๆ ทหารม้าจึงมักใช้ลาในการบรรทุกยุทธสัมภาระ อาวุธและอาหารขึ้นเขาขึ้นดอย เช่น ในคราวการปราบปราม ผกค. เมื่อหลายปีก่อนหรือใช้ในคาราวานหน่วยปราบปรามยาเสพติด พวกขนฝิ่นขนยาบ้า (ถ้าลาพูดได้คงจะประท้วงเรียกร้องทหารม้าเป็นชื่อเป็น "ทหารลา" ให้รู้แล้วรู้รอด!)

เวลาใครโง่ ใครเปิ่น ก็มักถูกกระแนะกระแหนว่า "โง่เหมือนลา" ซึ่งที่จริง ถ้าคนนั้นโง่ก็น่าจะเป็นเรื่องของคน ๆ นั้นเอง ไม่เห็นจะเกี่ยวกับลาตรงไหน  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นที่รู้กันในหมู่นักม้าวิทยาและนักลาวิทยาว่า ลาฉลาดกว่าม้า มีความอดทนมากกว่า สู้งานมากกว่า แบกขนได้มากกว่า ทนมือทนตีนเจ้าของที่โหด ๆ โดยไม่ต่อว่าต่อขาน (ดีดเจ้าของได้ ลาคงดีดไปนานแล้ว!

สมัยก่อนกษัตริย์ แม่ทัพและขุนพลมักใช้ม้าออกศึก แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนยังไม่ทราบคือ ตามธรรมเนียมการครองราชย์ของกษัตริย์อิสราเอลโบราณ กษัตริย์จะนั่งหลังลาขี่ไปรอบ ๆ เมืองเพื่อประกาศให้ชาวเมืองรับทราบ เช่น กษัตริย์โซโลมอนหรือเมื่อพระเยซูเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม เป็นต้น เป็นข้อพิสูจน์ว่าลาเป็นสัตว์ที่ไม่ด้อยเกียรติไปกว่าม้าเลย

สิ่งที่เราเรียนรู้จากลา

1. ในที่ทำงานหรือสังคมที่เกี่ยวข้อง เราอาจดูเหมือน "ลา" เมื่อเทียบกับคนอื่นที่เป็นเหมือน "ม้า" เราอาจไม่หล่อ ไม่สวย ไม่เท่ แต่อย่าไปแคร์ เพราะถ้าเราทำงานดีกว่า อดทนมากกว่า หัวหน้าหรือผู้ว่าจ้างย่อม ต้องการเราอยู่แล้ว เพราะฉะนััน ถ้าเราขยันอดทนและ "ฉลาดเหมือนลา" ย่อมไปโลดแน่นอน

2. ลาไม่ค่อยแหกปากร้องโวยวาย (ม้าจะฮี้แฮ่มากกว่า) เราจะพิสูจน์ความเป็นมืออาชีพ มีวุฒิภาวะโดยการ ทำงานอย่างสุขุุม มีการวางแผนที่ดี ไม่เอะอะมะเทิ่งหรือไม่เรียกร้องมากเกินไป เราก็จะเป็นคนที่น่ารัก น่านับถือของผู้ร่วมงานได้มาก

3. อาหารของลาคือหญ้า ยิ่งหญ้าสด ๆ เขียว ๆ เป็นของโปรดของลาทีเดียว ดังนั้น การกินการอยู่ของเราจึง  ไม่ควรฟุ่มเฟือยหรือจู้จี้เกินเหตุ ขอให้กินอาหารอร่อย มีคุณค่า คุ้มราคาไม่แพงเกินไป ชีวิตก็อภิรมย์แล้ว 
















Comments

Popular posts from this blog

การบริหารโดยการเรียนจากชีวิตสัตว์/Management by Animals (MBA) # 15

การบริหารโดยการเรียนจากชีวิตสัตว์/Management by Animals (MBA) # 11

การบริหารโดยการเรียนจากชีวิตสัตว์/Management by Animals (MBA) # 13